U’23 World Championship
2015
POOL - B
Japan vs. Thailand
ญี่ปุ่นชนะทีมไทย 3-0 เซต แบบสบาย ๆ แทบไม่ต้องเหนื่อย ในช่วงแรกจนถึงเซตที่สอง ดูเหมือนว่าไทยจะมีลูกเหนียวกับเค้าบ้าง
แต่ถ้าเหนียวแล้วไม่กล้าโจมตี ตบลูกเปาะ ๆ แปะ ๆ ขอถามว่า จะเหนียวไปเพื่อ?? ส่วนในช่วงหลัง
ๆ ก็เล่นแบบปล่อยละเลย ยืนขาตายดูลูกตกพื้น (แล้วยิ้มแบบ อ้าว.. ลงไปแล้วหรือนี่)
ตามฟอร์มเดิม ไม่รู้ว่าโค๊ชได้ฝึกกำลังขานักกีฬาบ้างรึเปล่า
เล่นไม่เหมือนทีมชาติอื่นเค้า (พูดถึงระดับโลกนะ) ปฏิกิริยาเชื่องช้ามาก
ถึงไม่มีเลย เกมส์นี้ญี่ปุ่นไม่ได้ตีแรง
แค่ตีให้ลงในแดนไทยจุดเดิม ๆ ไทยก็รับไม่ได้แล้ว เหมือนเดิม ๆ แม้แต่ลิเบอร์โร่ไทย
ก็ไม่ได้เรียนรู้ที่จะรับได้ดีขึ้นจากตำแหน่งที่ถูกโจมตีเดิม ๆ ซึ่งต่างกับญี่ปุ่น หากถูกโจมตีในจุดใด
แม้เพียงครั้งเดียว เขาจะเรียนรู้รวดเร็ว ครั้งต่อไป อย่าหวังที่เดิม ไม่ง่าย เรื่องความเหนียวญี่ปุ่นดีมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว
การบล็อกก็ธรรมดาไม่ได้ดีเด่นอะไรมาก (แต่ก็ยังบล็อกดีกว่าทีมไทย) และเกมส์รุก
การเข้าโจมตีก็ธรรมดามาก ๆ ไม่ได้รุนแรงอะไรเลย
ทีมเปรูยังแกร่งกว่าญี่ปุ่นเยอะ ไม่ว่าจะเป็นเกมส์รับที่ดี ความเหนียว
การบล็อค การโจมตีที่หนักหน่วงรุนแรง เกมส์รุกที่ยอดเยี่ยม รวดเร็ว และหลากหลาย
น่าผิดหวังเป็นอย่างยิ่ง
สำหรับทีมไทย ที่เล่นหลุดฟอร์มไปเยอะขนาดนี้ ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
นอกจากโค๊ช และลูกทีม เพราะญี่ปุ่นใน Match นี้ ไม่ได้น่ากลัวอะไรเลย ทีมไทยสามารถชนะได้สบาย ๆ
หากชนะ Match นี้ โอกาสเข้ารอบ Final มีสูงมาก หรืออย่างน้อยก็ผ่านเข้ารอบชิงจัดอันดับ 5-8 อย่างแน่นอน แต่ทีมไทยก็ปล่อยโอกาสที่ดีมาก ๆ นั้น
ให้หลุดลอยไปอย่างง่ายดาย ท่ามกลางความผิดหวังของแฟน ๆ ชาวไทย เชื่อว่าหลายคนสงสัยว่า "เป็นจั๋งได๋ เด้อพี่น้อง สิตีลูกได้เบาแท้หลาย" การโจมตีที่ดี ต้องตีให้หนักหน่วง และรวดเร็ว เพื่อไม่ให้ฝ่ายตรงข้ามตั้งตัวทัน จึงจะหวังเป็นแต้มได้ การตีเบา หรือเคาะก็แค่บางโอกาส เพื่อเปลี่ยนจังหวะ ให้ฝ่ายตรงข้ามกังวล เป็นแทคติคเล็ก ๆ น้อย ๆ ไม่ใช่ตีเบาทุกครั้ง อย่างนั้นไม่เรียกการโจมตี แต่เรียกว่าเสียโอกาสทำแต้ม และไม่มีทีมไหนเค้าเล่นกัน มันไม่ใช่เกมส์ การตีเหยะ ๆ แหยะ ๆ นั้น สามารถหวังเป็นแต้มได้เพียง 4% เท่านั้น (จังหวะที่ฟลุคจริง ๆ นั่นแปลว่าแต้มที่ได้มาไม่ได้ใช้ฝีมือ อาศัยดวงช่วย ซึ่งมันคงจะชนะหรอกนะ)
กองเชียร์ไม่ได้ผิดหวังที่พวกเธอแพ้
การแพ้หรือชนะเป็นเรื่องของเกมส์กีฬาที่ทุกคนเข้าใจได้ดี อย่างนัดที่เจอกับจีน
เราเชียร์กันอย่างสนุกสนาน ทีมไทยเล่นได้ดี แต้มสูสี ถึงแม้ว่าจะแพ้แต่กองเชียร์ก็มีความสุขที่ได้ตามลุ้นและส่งเสียงเชียร์
แต่เพราะคู่แข่งเค้ามีดีกว่าหลายด้าน และเล่นได้ดีกว่า จึงชนะไป
ถ้าทีมไทยเล่นได้ดีตามมาตรฐานตัวเองแล้ว ก็ถือได้ว่าเป็นความพยายามที่เยี่ยมยอด กองเชียร์จึงสนุกและมีความสุขทุกครั้งที่ทีมไทยลงแข่งขัน
หากแต่ในนัดนี้ผิดหวังที่พวกเธอดูเหมือนจะไม่สู้
ไม่กล้าเล่น ไม่กล้าโจมตี กลัว หรือ ใจฝ่อ (ซึ่งหากคิดแบบนี้ก็แพ้เต็มประตูตั้งแต่ยังไม่ลงแข่งแล้ว) จังหวะรุก ก็ทำได้แค่ตีแบบโยนบอลข้ามฟากไปเฉย ๆ อย่างนุ่มนวล บางเบาและโด่งกำลังดีให้อีกฝ่ายได้บุกอย่างง่ายที่สุด
(อืม.. ถ้าเล่นอย่างนี้นะ อันเดอร์บอลให้เค้าไปเลยก็ได้มั้ง
หรือไม่ก็กลับมาเล่นกับเด็กมัธยมใกล้ ๆ บ้านเถอะ เสียดายโอกาสที่ได้เล่นระดับโลก) อีกส่วนหนึ่ง
คือ เล่นผิดพลาดเองมากเกินไป หลายลูกติดต่อกัน การเล่นในระดับโลกผิดพลาดได้แต่ต้องน้อยมาก
จนถึงไม่ผิดพลาดเลยด้วยซ้ำ เช่น พลาดไป 1-2 แต้ม แต่ไม่ใช่เสียเองเกือบทุกช็อต เซตผิด ตีเสีย
ไม่กล้าตี (คงกลัวลูกบอลจะเจ็บ) ตีไม่ผ่านเน็ต ตีออกนอกสนาม (ไม่ได้ออกน้อย ๆ นะ
ออกไปเยอะเลย และไม่ใช่ครั้ง หรือสองครั้ง แต่ตลอดเกมส์ นาน ๆ จะโผล่มาดีสักลูก) บอกได้คำเดียวเลยว่า ..เพลีย..ย..ย..ย.. คือ
ญี่ปุ่นชนะแบบแทบจะไม่ต้องทำอะไรเลย เพราะเราแจกแต้มให้อย่างเหลือเฟือเลยทีเดียว (ยังไม่นับรวมที่เสิร์ฟเสีย เสิร์ฟออกนะ) ถ้าทีมไทยเล่นไม่พัฒนาขึ้น แถมไม่รักษามาตรฐานการเล่นของตัวเอง
แบบนี้ต่อไป ระวังไต้หวัน เวียดนาม หรือทีมอื่น ๆ ในเอเชีย จะแซงขึ้นไปเล่นในระดับโลกแทน
สถานการณ์ตอนนี้ ทีมไทยหมดโอกาสเข้ารอบ
Final แน่นอนแล้ว
ส่วนโอกาสที่จะผ่านเข้ารอบจัดอันดับ 5-8 ยังพอมีแต่น้อยมาก
ต้องลุ้นเหนื่อยทีเดียว แม้แต่เปรูก็แซงทีมไทยขึ้นไปอยู่อันดับสี่ของตารางกลุ่ม B แล้ว
อีกทั้งด่านต่อไปจะเจอกับทีมคิวบา และโดมินิกัน
ถามว่าคิวบานั้นเล่นดีไหม ขอบอกว่าทีมไทยชนะได้สบายมือ
แต่ถ้าฟอร์มการเล่นยังเป็นแบบนัดนี้ที่เจอกับญี่ปุ่น ก็อาจแพ้และเตรียมตัวกินบ๊วย
ได้ที่โหล่กลับบ้านแน่นอน ส่วนทีมโดมินิกันนั้น ไทยเอาชนะได้ยากมาก
ถึงแม้จะเล่นได้ดี ฟอร์มพีค ๆ ก็เถอะ เพราะโดมินิกันในขณะนี้ขึ้นนำเป็นอันดับหนึ่งของกลุ่ม
B เพราะชนะรวดแบบ 3 คะแนนเต็มทุกนัด ที่สำคัญโดมินิกันชนะจีน
3-0 เซต แบบสกอร์ไม่เบียดเลย (25-19,
25-19 และ 25-18) ยังมีเวลาที่ทีมไทยชุดเล็กจะพิสูจน์ตัวเองในอีกสองนัดที่เหลือ
ว่าเธอจะเป็นเหมือนทีมชาติชุดใหญ่หรือไม่ ที่ฟอร์มการเล่นคุ้มดีคุ้มร้าย
บางนัดเล่นดีอย่างกับ World Ranking เป็นทีมอันดับสามของโลกก็ไม่ปาน (แต่ส่วนน้อย) และบางนัดเล่นเหมือนกับเพิ่งหัดเล่น เสมือนเพิ่งเคยเจอบล็อกเป็นครั้งแรก โลกสวย (ติเพื่อก่อนะครัช)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
กีฬาสร้างความแข่งแกร่ง และรอยยิ้ม รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย คือ น้ำใจนักกีฬา