World
Grand Prix 2015
Week 3 : Pool
H
USA vs. China
สหรัฐอเมริกา พบกับ จีน
วอลเล่ย์บอลเวิลด์กรังด์ปรีซ์ 2015 กลุ่มเอช สัปดาห์ที่ 3 สนามที่ 3 แข่งขันกันที่ “ฮ่องกง” ทีมสหรัฐอเมริกา (อันดับ 1) พบกับ ทีมจีน (อันดับ 3) Match นี้น่าสนใจมาก เนื่องจากอันดับที่ 1-3 ของดิวิชั่น 1 คือ บราซิล จีน และสหรัฐอเมริกา ยังไม่เคยพบกับความพ่ายแพ้ ถือเป็นการชิงอันดับ 2 ของดิวิชั่น1 ทีเดียว เพราะอันดับ 1 คือ บราซิล ชนะรวด 9 นัด เสียไปเพียงแค่ 2 เซต ให้แก่ ญี่ปุ่น และไทย เท่านั้น โดยที่ทีมจีนเป็นที่ยอมรับในระดับโลกมายาวนาน และวันนี้โค๊ชหลางผิง ก็ได้แสดงศักยภาพนำทัพทีมจีนกลับมาผงาดคว่ำมือ
1 ของโลกอย่างสหรัฐฯ ลงไปได้ 3-2 เซต โดยในเซตที่ชนะแต้มขาดลอยเลยทีเดียว
ไม่ธรรมดาจริง ๆ เป็นแนวทางอันดีให้ทีมไทยนำข้อดีของทีมจีน และญี่ปุ่น มาปรับใช้ให้ทีมไทยที่พัฒนามาไกลไม่น้อย
ให้มีศักยภาพเพิ่มมากขึ้น
โดยในปัจจุบันทีมไทย ก็ไล่ตามหลัง จีน และญี่ปุ่นมาติด ๆ แต่ก็ยังมีจุดด้อยที่ต้องปรับปรุง
และพัฒนาอีกมาก
จุดเด่นของทีมจีน (ชุด Head Coach หลางผิง) คัดผู้เล่นที่มีความสูง (เพื่อไม่ให้เสียเปรียบทีมยุโรปด้านรูปร่าง
มีข้อดีในการบล็อก และการโจมตี) นำเอาเทคนิคต่าง ๆ มาใช้ได้ดีเยี่ยม ความเหนียว
และความว่องไวไม่ต้องพูดถึง
ส่วนทีมญี่ปุ่น จุดเด่นสุดก็คือ ความเหนียว เปลี่ยนเกมส์รับมาเป็นรุก
และความเร็วในการโจมตี การต่อบอลที่แม่นยำ และรวดเร็ว แต่ยังไม่เน้นส่วนสูงของผู้เล่นมากเท่ากับทีมจีน แต่ผู้เล่นของญี่ปุ่นทุกคน มีความสามารถเฉพาะตัวโดดเด่น และการโจมตีได้ดีมากแม้ในสถานการณ์แก้ไข
ข้อแรกที่ทีมไทยต้องปรับด่วน คือ ลูกเสิร์ฟ ทุกทีมชั้นนำระดับโลกจะมีลูกเสิร์ฟที่แม่นยำ
และกดดันผู้รับได้ดีเยี่ยม
ส่วนทีมไทยมักเสิร์ฟเสียเอง และลูกเสิร์ฟส่วนใหญ่ธรรมดาเกินไป ไม่กดดันผู้รับเท่าที่ควรจะเป็น โอกาสที่จะชนะจึงยากขึ้นไปอีก *ลูกเสิร์ฟที่ดี ไม่จำเป็นต้องกระโดดเสิร์ฟให้เปลืองแรงก็ได้* เหมือนกับหลาย ๆ คนในระดับโลกที่เสิร์ฟดี และแม่นยำ โดยไม่ได้กระโดดเสิร์ฟ เช่น Gabriela Braga Guimaraes, Fernanda Rodrigues ของบราซิล Hui Ruoqi ของจีน Kimberly Hill, Karsta Lowe ของสหรัฐฯ Saori Kimura ของญี่ปุ่น เป็นต้น รวมถึงทีมไทยเองบางคน เช่น หัทยา บำรุงสุข ทัดดาว นึกแจ้ง ชัชชุอร โมกศรี เป็นต้น
USA vs. China
World Grand Prix 2015 : Week 3 – Pool H
Competition : Jul. 18’ 2015
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
กีฬาสร้างความแข่งแกร่ง และรอยยิ้ม รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย คือ น้ำใจนักกีฬา